หุ้นปันผล 2566 พื้นฐานดี

หัวข้อ

หุ้นปันผล 2566 พื้นฐานดี

หุ้นปันผล 2566 พื้นฐานดี หุ้นปันผล ที่อยู่ในกลุ่มหุ้น SETHD หรือ SET High Dividend Index ถือว่าได้รับความนิยมจากนักลงทุนค่อนข้างมาก เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ทำการคัดเลือก 30 หุ้น ที่อยู่ใน SET100 ที่มีสภาพคล่องดี และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคปค่อนข้างสูง ทำให้หุ้นตัวนั้นสามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างต่อเนื่อง หุ้น ปันผล คือ อะไร

เช็กครึ่งปี 2566 เจาะ 12 หุ้นปันผล 2566 พื้นฐานดี SET100 ปันผลสูงเกิน 7%

หุ้นปันผล 2566 พื้นฐานดี ในบรรดาหุ้นกลุ่ม SET100 ณ ช่วงเดือน ก.ค.2566 พบว่ามี 12 หลักทรัพย์ที่มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผล YTD ที่สูงในระดับ 7.00% ขึ้นไป โดยจะกระจายไปอยู่ที่กลุ่มพลังงาน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นส่วนใหญ่ และหลายหลักทรัพย์ยังเหลืออัปไซด์ในระดับสูงเกิน 30% ขึ้นไปอีกด้วย

  1. บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (PSL) อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 19.44% (ปี 65 อยู่ที่ 10.87 % ปี 64 อยู่ที่ -%) อัตราผลตอบแทนราคา YTD -44.10% ล่าสุด 7 ก.ค.66 ปิด 9.00 บาท เหลืออัปไซด์ 59.44% จากราคาเป้าหมาย 14.35 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ18.80/8.80 บาท ค่า P/E 3.86 เท่า มาร์เกตแคป 14,033.63 ล้านบาท บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ คาด PSL กำไร Q2/66 จะเพิ่มขึ้นเด่น QoQ หลังค่าระวางเรือเริ่มฟื้นตัว และคาดจะฟื้นต่อเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน บวกกับราคาหุ้นได้ลงมารับผลการดำเนินงาน Q1/66 ที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
  2. บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) การเล่น หุ้นปันผล อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 13.88% (ปี 65 อยู่ที่ 1.67% ปี 64 อยู่ที่ -%) อัตราผลตอบแทนราคา YTD -25.23% ล่าสุด 7 ก.ค.66 ปิด 8.00 บาท เหลืออัปไซด์ 39.12% จาก ราคาเป้าหมาย 11.13 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 13.50/7.80 บาท ค่า P/E 9.61 เท่า มาร์เกตแคป 34,687.22 ล้านบาทโบรกฯ ระบุว่าหุ้นกลุ่มโรงกลั่นผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในเดือนเมษายน เลือกหุ้น SPRC เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มนี้ เพราะ SPRC มีอัตราสัดส่วนผลผลิตน้ำมันเบนซินใน 1Q66 อยู่ในเกณฑ์สูงที่ 25% ทำให้ได้อานิสงส์มากที่สุดในภาวะที่ spread ของน้ำมันเบนซินสูงขึ้นอย่างโดดเด่นที่ประมาณ US$20/bbl ในปัจจุบัน
  3. บมจ.บ้านปู (BANPU) อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 12.40% (ปี 65 อยู่ที่ 2.34% ปี 64 อยู่ที่ 2.12%) อัตราผลตอบแทนราคา YTD -34.67% ล่าสุด 7 ก.ค.66 ปิด 8.95 บาท เหลืออัปไซด์ 3.58% จาก ราคาเป้าหมาย 9.27 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 15.00/7.90 บาท ค่า P/E 2.15 เท่า มาร์เกตแคป 75,664.74 ล้านบาทโบรกฯ มองราคาหุ้น BANPU ปรับตัวลงมาแล้วกว่า 38.3% YTD สะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอใน 2Q และทั้งปีไปพอสมควรแล้ว จากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง และคาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน ช่วยหนุน Demand ทั้งถ่านหินและก๊าซ ซื้อ หุ้น ปันผล ยัง ไง
  4. บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) อัตราผลตอบแทนเงินปันผล YTD 11.63% (ปี 65 อยู่ที่ 19.67% ปี 64 อยู่ที่ 7.26%) อัตราผลตอบแทนราคา YTD -18.48% ล่าสุด 7 ก.ค.66 ปิด 17.20 บาท เหลืออัปไซด์ 26.51% จากราคาเป้าหมาย 21.76 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 26.00/16.40 บาท ค่า P/E 7.39 เท่า มาร์เกตแคป 26,419.20 ล้านบาทคาดกิจกรรมทางเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว ซึ่งจีนเริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจโดยลดดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.0% เหลือ 1.9% และการต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษี EV ส่งผลให้เกิดการลงทุนมากขึ้น เป็นปัจจัยหนุนต่อราคายาง 2H66 ฟื้นตัวได้มากกว่า 1H66 ตามกิจกรรมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
  5. บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT) อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 10.49% (ปี 65 อยู่ที่ 46.44% ปี 64 อยู่ที่ 8.66%) อัตราผลตอบแทนราคา YTD -28.50% ล่าสุด 7 ก.ค.66 ปิด 7.15 บาท เหลืออัปไซด์ 46.85% จากราคาเป้าหมาย 10.50 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 17.20/7.10 บาท ค่า P/E 27.98 เท่า มาร์เกตแคป 20,486.04 ล้านบาทด้วยความได้เปรียบในการเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบยางธรรมชาติและต้นทุนค่าขนส่งที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ประกอบกับเทคโนโลยีในการผลิตของบริษัทฯ ที่สามารถปรับเปลี่ยนการผลิตระหว่างถุงมือยาง NRPF และ NBR ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น น่าจะทำให่ผลประกอบการดีขึ้น
  6. บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 8.99% (ปี 65 อยู่ที่ -% ปี 64 อยู่ที่ -%) อัตราผลตอบแทนราคา YTD -29.37% ล่าสุด 7 ก.ค.66 ปิด 8.90 บาท เหลืออัปไซด์ 12.36% จากราคาเป้าหมาย 10.00 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 15.00/8.15บาท ค่า P/E 6.95 เท่า มาร์เกตแคป 30,801.64 ล้านบาทBCP ซื้อกิจการ ESSO ราบรื่นตามแผน ล่าสุดบอร์ดแข่งขันทางการค้า (กขค.) จะสรุปกลางเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมเคาะราคาหลังปิดงบไตรมาส 2 ปีนี้ รับรู้ผลประกอบการไตรมาส 4 ตามแผน เดินหน้าหนุนกำลังผลิตน้ำมันขึ้นแท่นเบอร์ 1 ของไทย 2.94 แสนบาร์เรลต่อวัน 2,100 สถานีบริการ
  7. บมจ.ไทยออยล์ (TOP) อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 8.36% (ปี 65 อยู่ที่ 4.22% ปี 64 อยู่ที่ 1.41%) อัตราผลตอบแทนราคา YTD -21.33% ล่าสุด 7 ก.ค.66 ปิด 44.25 บาท เหลืออัปไซด์ 41.24% จาก ราคาเป้าหมาย 62.50 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 63.25/42.25 บาท ค่า P/E 3.29 เท่า มาร์เกตแคป 98,847.22 ล้านบาทโบรกฯ มองว่าค่าการกลั่นจะมีการปรับตัวขึ้นได้อีกในเร็วๆ นี้ รวมไปถึงความต้องการน้ำมันอากาศยานจากทั่วโลก สอดคล้องกับการเดินทางด้วยอากาศยานที่เพิ่มขึ้น หุ้นปันผล ธนาคาร
  8. บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 8.03% (ปี 65 อยู่ที่ 7.20% ปี 64 อยู่ที่ 6.56%) อัตราผลตอบแทนราคา YTD -2.77% ล่าสุด 7 ก.ค.66 ปิด 96.50 บาท เหลืออัปไซด์ 11.64% จาก ราคาเป้าหมาย 107.73 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 104.00/86.00 บาท ค่า P/E 10.70 เท่า มาร์เกตแคป 77,262.30 ล้านบาทคาดไตรมาส 2/66 จะมีกำไร 1,773 ล้านบาท ทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโตจากไตรมาสก่อน โดยต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากวัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นยังคงเป็นแรงฉุดสำคัญ ธนาคารมีการตั้งสำรองหนี้สูญจำนวนมาก จึงช่วยให้ธนาคารสามารถรักษา credit cost ให้ต่ำได้ในไตรมาส 2/66
  9. บมจ.แสนสิริ (SIRI) อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 7.56% (ปี 65 อยู่ที่ 3.40% ปี 64 อยู่ที่ 3.25%) อัตราผลตอบแทนราคา YTD +5.11% ล่าสุด 7 ก.ค.66 ปิด 1.85 บาท เหลืออัปไซด์ 17.30% จากราคาเป้าหมาย 2.17 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 2.00/0.97 บาท ค่า P/E 5.46 เท่า มาร์เกตแคป 30,378.96 ล้านบาท บล.กสิกรไทย มองยอดขายแข็งแกร่งในไตรมาส 2/66 ที่ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.8% YoY/23.9% QoQ คอนโดฯ หนุนการเติบโต YoY โครงการแนวราบหนุนเติบโต QoQ และโครงการใหม่จำนวนมากใน 2H66 จะช่วยใหบรรลุเป้าหมายได้
  10. บมจ.ศุภาลัย (SPALI) อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 7.17% (ปี 65 อยู่ที่ 5.13% ปี 64 อยู่ที่ 4.41%) อัตราผลตอบแทนราคา YTD -16.87% ล่าสุด 7 ก.ค.66 ปิด 20.20 บาท เหลืออัปไซด์ 30.40% จากราคาเป้าหมาย 26.34 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 25.25/18.10 บาท ค่า P/E 4.89 เท่า มาร์เกตแคป 39,451.69 ล้านบาท ผู้บริหารคาดไตรมาส 2/66 คาดยอดโอนกรรมสิทธิ์จะดีกว่าไตรมาส 1/66 ซึ่งเป็นช่วงต่ำสุดของปี เนื่องจากไม่มีการโอนคอนโดมิเนียม แต่ในไตรมาส 2/66 จะมีโครงการคอนโดมิเนียมเสร็จใหม่ 1 โครงการ มูลค่า 1,400 ล้านบาท ที่จะมีการโอน ซึ่งปัจจุบันมียอดขาย 100% แล้ว
  11. บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 7.14% (ปี 65 อยู่ที่ 5.05% ปี 64 อยู่ที่ 5.68%) อัตราผลตอบแทนราคา YTD -15.15% ล่าสุด 7 ก.ค.66 ปิด 8.40 บาท เหลืออัปไซด์ 27.02% จากราคาเป้าหมาย 10.67 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 10.10/8.00 บาท ค่า P/E 12.98 เท่า มาร์เกตแคป 100,377.59 ล้านบาทโบรกฯ ประเมินธุรกิจพื้นที่เช่าและโรงแรมปีนี้หนุนผลการดำเนินงานปีนี้ ให้ยังเติบโตได้เล็กน้อย YoY รวมทั้งยังมีโอกาสบันทึกกำไรจากการขายโรงแรมเข้า LHHOTEL REIT มากกว่าคาด ล่าสุดเตรียมขายโรงแรม 2 แห่ง และคาดปันผลสูง คาดปันผลต่อหุ้นปีนี้ 0.7 บาท Dividend yield +8% ต่อปี
  12. บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 7.13% (ปี 65 อยู่ที่ 4.46% ปี 64 อยู่ที่ 4.34%) อัตราผลตอบแทนราคา YTD -16.53% ล่าสุด 7 ก.ค.66 ปิด 10.10 บาท เหลืออัปไซด์ 36.53% จากราคาเป้าหมาย 13.79 บาท ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 12.90/9.35 บาท ค่า P/E 6.46 เท่า มาร์เกตแคป 24,786.64 ล้านบาทORI ได้ลองระดมทุนด้วยการออกสินทรัพย์ดิจิทัล ดำเนินงานในรูปแบบการรับจ้างบริหารทรัพย์โครงการนั้นๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนตามที่ระบุในสัญญา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนักลงทุนว่ามีความมั่นใจแค่ไหนว่าทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันจะมีศักยภาพสร้างผลตอบแทนได้ในอัตราที่ระบุในสัญญาหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในบรรดา 12 หุ้นเหล่านี้แม้ว่าส่วนใหญ่อัตราผลตอบแทนราคา YTD จะยังคงติดลบ แต่บางตัวถูกนักวิเคราะห์มองว่ายังมีอนาคต เหลืออัปไซด์จำนวนมาก บางตัวเหลืออัปไซด์ในระดับกว่า 40.00% ขึ้นไป

 

บทความที่เกี่ยวข้อง